ทำไมต้องมี “วงจรที่ 2” สำหรับชาร์จรถ EV ที่บ้าน?

ในยุคที่รถยนต์ไฟฟ้า (EV) เริ่มกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน “การชาร์จรถที่บ้าน” กลายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับเจ้าของรถ EV หลายคน
แต่ก่อนติดตั้ง EV Charger สิ่งหนึ่งที่ไม่ควรมองข้ามเลยก็คือ การเดินวงจรไฟฟ้าแยกเฉพาะ หรือที่เรียกว่า “วงจรที่ 2”

⚡ “วงจรที่ 2” คืออะไร?

“วงจรที่ 2” หมายถึงการเดินสายไฟใหม่โดยเฉพาะจาก มิเตอร์ไฟฟ้าหลักของบ้าน ไปยัง จุดชาร์จรถ EV โดยตรง
การแยกวงจรแบบนี้ทำให้กระแสไฟสำหรับการชาร์จไม่ไปปะปนกับวงจรไฟฟ้าอื่นในบ้าน เช่น แอร์ ตู้เย็น หรือเครื่องซักผ้า
พูดง่าย ๆ คือ การสร้าง “ทางไฟฟ้าพิเศษ” ให้รถของคุณโดยเฉพาะ เพื่อความปลอดภัยสูงสุด

✅ เหตุผลที่ควรมี “วงจรที่ 2” สำหรับ EV Charger

1. ป้องกันไฟฟ้าเกินพิกัด (Overload)

การชาร์จรถ EV ต้องใช้กำลังไฟสูงมาก — บางรุ่นกินไฟถึง 7 กิโลวัตต์ขึ้นไป
ถ้าใช้วงจรเดียวกับไฟบ้านทั่วไป อาจเกิดภาวะ ไฟฟ้าเกินโหลด (Overload) ทำให้ไฟตก, ไฟดับ หรืออุปกรณ์ไฟฟ้าในบ้านเสียหายได้
การแยกวงจรจึงช่วยกระจายภาระไฟฟ้า ทำให้ระบบไฟในบ้านทำงานได้อย่างเสถียรและปลอดภัยมากขึ้น

2. ลดความเสี่ยงไฟฟ้าลัดวงจรและไฟรั่ว

การเดินวงจรเฉพาะทำให้สามารถติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันเพิ่มเติมได้ เช่น

  • เบรกเกอร์เฉพาะสำหรับ EV Charger (MCB)
  • อุปกรณ์กันไฟดูด/ไฟรั่ว (RCD หรือ ELCB)

อุปกรณ์เหล่านี้จะตัดไฟอัตโนมัติทันทีเมื่อมีความผิดปกติ ช่วยป้องกันไฟฟ้ารั่ว, ไฟไหม้ และเพิ่มความปลอดภัยให้ทั้งบ้านและรถของคุณ

3. ยืดอายุการใช้งานของระบบไฟฟ้าในบ้าน

เมื่อแยกวงจรออกมาเฉพาะสำหรับการชาร์จ EV โหลดไฟฟ้าในระบบหลักก็จะลดลง
ทำให้สายไฟ, เบรกเกอร์ และตู้เมนในบ้าน ไม่ทำงานหนักเกินไป ส่งผลให้มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น และลดโอกาสเกิดความร้อนสะสมในระบบไฟ

Scroll to Top